วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วัดนิเวศธรรมประวัติ อยุธยา Wat Niwet Thammaprawat in Ayutthaya Thailand.

วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร  ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา
Wat Niwet Thammaprawat is located on an island in the Chao Phraya River on the south side, opposite the Bang Pa-In Palace is located at Ban Len in  Bang Pa-In district, Ayutthaya province Thailand.




ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยกระเช้าไฟฟ้าโดยมีพระคอยควบคุมอยู่บนหอ ที่ตั้งอยู่ที่ฝั่งวัด มี 2 กระเช้าสำหรับ รับ-ส่ง ผู้โดยสารประมาณครั้งละ 6-8 คน ค่าโดยสารแล้วแต่บริจาคที่กล่องข้างๆกระเช้า
 Just crossing the river by cable car by have the monk is controlling on the tower, is located at the temple shore, 2 cable car for - Transfer of passengers about 6-8 persons per a time. Fares can to donate at a box next to the cable car.





วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เป็นวัดนิกายเถรวาท ในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2421 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างแบบโบสถ์ฝรั่ง ด้วยศิลปะแบบกอทิก หรือ โกทิก (Gothic) การก่อสร้างใช้ระยะเวลา 2 ปี 22 วัน  สำเร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2421
Wat Niwet Thammaprawat is a royal temple classy, Theravada Buddhist Temple. Built in 1878 by King Rama 5 for used to be the place for practice royal merit, when the king came for stay in the Bang Pa-In Palace. Ordered to create replicas from the cathedral with the art of Gothic. The construction of 2 years 22 days, completed on 24 February 1878.

**Read More Wikipedia, Phra Bat Somdet Phra Poraminthra Maha Chulalongkorn Phra Chunla Chom Klao Chao Yu Hua (Thai: พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว), or Rama V  :  https://en.wikipedia.org/wiki/Chulalongkorn  **






หอพระไตรปิฎก สร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2421 เป็นอาคารทรงจตัรมุข 2 ชั้น ขนาด 7.40 x 7.40 เมตร หลังคาเป็นโครงไม้ มุงด้วยกระเบื้องจีน ภายในเป็นตู้พระไตรปิฎกหกเหลี่ยมบรรจุพระคัมภีร์ 119 คัมภีร์
Buddhist scriptures Hall was built in AD 1878 the building is a square with 2 floors, dimensions 7.40 x 7.40 m. The roof is a wooden structure, topped by Chinese the tiles. Inside is a hexagon cabinet to keep the Buddhist scriptures 119 books.


พระอุโบสถของวัดสร้างแบบโบสถ์ในคริสต์ศาสนา อาคารและการตกแต่งแบบกอธิค มีกระจกสีประดับอย่างสวยงาม ด้านหลังพระอุโบสถมีหอระฆังทรง 8 เหลี่ยมสูงขึ้นไป 3 ชั้น คือ มีนาฬิกาบอกเวลา เป็นเลขโรมัน มีเลขอารบิคที่กลางหน้าปัด 1877 คือคริสตศักราช  ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 2420 และ ระฆังเหมือนในโบสถ์คริสต์ และชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
The chapel was built similar with the Christian church, Beautifully with decorated with colored glass. Back of The chapel has a bell tower octagon, a high 3 floors are a clock with Roman numerals, on the dial have Arabic numerals is 1877 BCE. which corresponds to 2420 Buddhist era. And the bell like in Christ Church and the top floor is an enshrined the relics. 










 "เทวรูปพระอินทร์เป่าสังข์" อยู่ที่ซุ้มตะวันออก และ "เทวรูปปัญสิงขรถือพิณ" อยู่ที่ซุ้มตะวันตก ประดิษฐานอยู่ที่ซุ้มประตูพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างปั้นขึ้น เดิมเป็นปูนปั้นแต่ต่อมาชำรุดแตกหัก จึงโปรดให้จัดการหล่อขึ้นใหม่ด้วยทองสัมฤทธิ์ ปิดด้วยทองคำเปลว และ นำไปประดิษฐานแทนองค์เดิม
"The Indra Statue blowing a conch" is on the east arch and "Panja Singkhon Statue hold a harp." is on the west arch, Enshrined at the chapel arch. King Rama 5. ordered to make its up. The original was the stucco, but later was damaged and fracture so to ordered to make its up new by bronze, covered with gold leaf and take to an established instead to old statues.


ภายในประดิษฐาน "พระพุทธนฤมลธรรโมภาส" เป็นพระประธาน โดยลักษณะที่ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยม และ ศิลปะแบบตะวันตก เป็นพระปฏิมากรนั่งสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 22 นิ้วกึ่ง สูงตลอดรัศมี 36 นิ่วกึ่ง มีพระอรหันต์สาวก คือ พระโมคคัลลานะอยู่ทางซ้าย และ พระสารีบุตรอยู่ทางขวา บริเวณฐานชุกชีมีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนแบบโบสถ์คริตส์ มีพระราชอาสน์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประทับอยู่ด้านข้าง และ ที่ฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าเหนือประตูพระอุโบสถ เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ที่ประดับด้วยกระจกสี 
Inside is enshrined "Phra Phuttha Narumol Thanmo-Phad"  Buddha Statue with the style combines traditional art and Western art. In the posture meditation with the lap width 22 inches semi, high till radius 36 inches semi. The disciple of Buddhist saints is Phra Mokalana on left and Phra Sariputta on right. A pedestal base is similar to the base for the cross in Christ Church. A royal seat of King Rama 5, is on the side. And the chapel wall in front, above the door of the chapel is is the royal portrait of King Rama 5, decorated with stained glass.











"นาฬิกาแดด" ตั้งอยู่ระหว่างด้านหลังพระอุโบสถ และ พิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ 5 เดิมเป็นศาลาการเปรียญ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2533 ได้ปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ 5 ภายในพิพิธภัณฑ์มีสิ่งของสำคัญๆ ล้วนเป็นเครื่องใช้ของรัชกาลที่ 5  / ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม
"Sundial" is located between the back of the chapel and the museum of King Rama 5. The original was a sermon hall, later on the year 1990 has improved as a museum, within the museum are important other things of King Rama 5.

**นาฬิกาแดด (Sundial) คือ เครื่องมือใช้สำหรับวัดเวลาในตอนกลางวันจากตำแหน่งของดวงอาทิตย์ โดยทั่วไปจะสร้างเป็นวัตถุอย่างหนึ่งเรียกว่า "โนมอน (gnomon)" ให้ตั้งอยู่บนฐาน เมื่อแสงแดดตกกระทบโนมอนจะทำให้เกิดเงาทอดลงไปบนฐาน แล้วอ่านค่าเวลาจากฐานนั้น ซึ่งมีขีดบอกเวลากำกับอยู่ที่ฐาน นาฬิกาแดดอาจสร้างขึ้นโดยยึดอยู่กับที่ หรือ สามารถเคลื่อนย้ายก็ได้ / จากวิกิพีเดีย**
Sundial is instruments for measuring time in the day by the position of the sun. Basically, it creates an object called a "gnomon" is located on the base, when sunlight strike with the gnomon will cause shadow stretch onto the base and read the values time from the base then which the lines of the time on the base. Sundial may be created by stick on a permanent base, or can be moved to anywhere.





สุสานสวนหิน ดิศกุลอนุสรณ์ เป็นสวนหินสำหรับประดิษฐาน พระอัฐิของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในเจ้าจอมมารดาชุ่ม - รัชกาลที่4
The Diskul Memorial Rock Garden is is the place for an enshrined the bones of HRH Prince Damrong Rajanubhab of King Rama 4.





 "พระพุทธรูปศิลาปางนาคปรก" เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ในสมัยลพบุรี ฝีมือช่างขอมอายุเก่าแก่นับพันปี และ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงปลูกไว้หน้าพระอุโบสถ
"Stone Buddha posture cover by the King of Nagas"  is the the ancient Buddha since Lopburi period. The artist by Khmer millennia old age. And The great Bodhi Tree by King Rama 5 has planted in front of the chapel.





พระตำหนัก สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งการศึกษาและปกครองของไทย เป็นพระตำหนักที่ประทับเมื่อครั้ง ทรงผนวช ที่วัดนิเวศธรรมประวัติ เมื่อปี พ.ศ 2426
A Palace of HRH Damrong Rajanubhab, The father of Education and domination of Thailand. is the palace in the time when him was ordained at Wat Niwet Thammaprawat on year 1883.





ดู อ่าน เพิ่มเติม สถานที่อื่นๆ ในอยุธยา :

SEE, READ MORE about other places in Ayutthaya province :






ขอบคุณข้อมูลเบื้องต้นต่างๆจากเวบ ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม และ วิกิพีเดีย


ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชม และ ติดตามได้ที่
Thanks for visit my Blog and followed me on : 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น