Wat Chaeng is located on Rabeab-Kit Anusorn Road in Bang Kla District, Chachoengsao province Thailand. Nearby is Bang Kla Floating Market. 30 kilometers away from Chachoengsao City.
"ยักษ์" เป็น "อมนุษย์" ชนิดหนึ่งที่มีกล่าวถึงทั้งในทางศาสนา และ วรรณคดี ยักษ์ในความเชื่อของไทยได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์ และ ศาสนาพุทธ ในขณะที่ความเชื่อในบริเวณอื่นๆ ของโลกก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอมนุษย์ที่มีร่างกายใหญ่โต
อมนุษย์ คือ สิ่งที่มีรูปร่าง เค้าโครงคล้ายๆ มนุษย์ แต่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น สัตว์ในป่าหิมพานต์ที่ปรากฏในนวนิยายของไทย มีทั้ง เงือก คนธรรน์ และ นารีผล ซึ่งมีรูปร่างในบางส่วนใกล้เคียงกับมนุษย์ /จากวิกิพีเดีย ยักษ์
"The Giant" is an one species "Non-human" that are mentioned in both the religious and literature. A giant in the faith of Thailand, influenced by Hinduism and Buddhism. (The Animals in The Himavanta forest creatures) While the belief in other regions of the world, it is a story about the Non-human Goliath.
Non-human (also written nonhuman) is any object or creature that displays some human characteristics but not enough characteristics to be considered a human. The term has been used in a variety of contexts. / From Wikipedia Non-human
กินรี (ตัวเมีย) และ กินร (ตัวผู้) เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างเป็นนก มีปีกบินได้ ตามตำนานเล่าว่าอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เชิงเขาไกรลาศ นับเป็นสัตว์ที่มีปรากฏในงานศิลปะของไทยอย่างมาก
In Thai called Kinnaree (female) and Kin-norn (male) are the animals in The Himavanta forest creatures. A body upper is human, Lower is the bird with wings can fly. According to legend said they lived in The Himavanta forest creatures, The Kailat foothills area. This animals have appeared a lot in The Thai Art or The Art of Thailand.
Read more : Kinnara From Wikipedia.
พระอุโบสถหลังนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2479 โดย คุณยายเจียม เงี่ยมอื๊อ ด้วยเงิน 70,000 บาท ภายในพระอุโบสถด้านหน้าประดิษฐาน รูปรัชกาลที่ 8 จารึกว่า "อานันทมหิดลสยามมินทร์" ด้านข้างมีพระพุทธบาทจำลอง
This chapel was built since 1936 by Khun-Yai (grandmather)Jeam Ngeam-Aue with the money 70,000 Baht. Inside the chapel at the front is the statue of King Rama 8, with inscription "Ananda Mahidol".
พระอุโบสถ มีศิลปะไทยผสมศิลปะจีน ด้วยโทนสีน้ำเงิน ขาว และ ทอง ที่หน้าบันพระอุโบสถ เป็นรูปพระพรหมทรงครุฑ และ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ รายล้อมด้วยเหล่าเทพพนม ผนังรอบอุโบสถประดับลายไทย และ ที่หน้าบันประตูกำแพงพระอุโบสถ เป็นรูปปั้นจตุรครุฑ
The chapel is Thai art mixed with art of China with tone of blue, white and gold color. The Gable of the chapel is the Brahma ride on the Garuda and the Indra ride the Erawan elephant, Surrounded by with The Angels (the hands up for respect) Thai Design. The walls around the chapel is decorated with Thai stripes. The Gable of gate at the wall of the chapel are four Garuda.
วัดแจ้ง บางคล้า เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี และ บริเวณวัดเคยเป็นบริเวณที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ พระเจ้าตากสินมหาราช ได้ยกทัพเพื่อไปตีเมืองเขมร และเดินทัพมาถึงที่นี่เมื่อเวลาแจ้ง หรือ ตอนเช้าตรู่ ชาวบ้านจึงเรียก "วัดแจ้ง" / วัดแจ้ง
Wat Chaeng Bang Kla is the temple was built in King Taksin of Thonburi period and the area of temple have been the camp of when King Rama 1 has troops to hit (war) Khmer (Cambodia) and troops arrived here in the morning. Then the local to call "Wat Chaeng" (Chaeng แจ้ง in Thai is the morning).
รูปปั้นสังข์ทองเจ้าเงาะป่า และ นางรจนา รูปปั้นตัวละครในวรรณคดีเรื่อง "สังข์ทอง" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ซึ่งเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชการที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
วรรณคดีเรื่อง "สังข์ทอง" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "พระสังข์ทอง" ซึ่งตัวจริง เป็นหนุ่มรูปงาม ผิวพรรณเป็นทองทั่วทั้งตัว แต่ได้ปลอมตัวโดยเอารูป"เจ้าเงาะป่า" เข้าสวมใส่ แล้วแกล้งทำเป็นบ้าใบ้ และได้มาในงานพิธีเลือกคู่ของเจ้าหญิงเมืองหนึ่ง ซึ่ง "เจ้าหญิงรจนา" เป็นหนึ่งในพระราชธิดาแห่งเมืองนั้น เนื่องจากเป็นบุพเพสันนิวาส เจ้าหญิงรจนาจึงมองเห็นรูปทองที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ข้างในรูปเจ้าเงาะป่า จึงโยนพวงมาลัยให้ เพื่อเลือกสังข์ทองเจ้าเงาะป่า (พระสังข์ทอง) เป็นพระสวามี ท่านเจ้าเมืองโกรธมาก ที่ลูกสาวเลือกคนบ้า ใบ้ ตัวดำเหมือนเงาะป่า จึงขับไล่ทั้งสองให้ไปอยู่ที่กระท่อมปลายนา จนพระอินทร์ต้องปลอมตัวลง เพื่อสร้างปัญหาต่างให้เมืองนี้ เพื่อให้พระสังข์เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา
The statues of Sang Thong and Rot-Chana Princess are the statues of character in literature about the " Sang Thong (Golden Conch)". A Royal Opus of the King Rama 2 he is the 4th son of King Rama 1 of Rattanakosin.
The Literature "Sang Thong" is about "Phra Sang Thong" which really is a handsome young with a throughout his skin is golden but him has a disguised by wear "Chao Ngoah-Pa (the dress as a fake skin)". Then pretending as a dumb, an idiot guy and had came in the ceremony choosing a mate of the Princess in an one city. Which "Rot-Chana Princess" is one of the daughter of the city. Because they are the soulmate so Rot-Chana Princess can visible his a real golden skin is hidden in the Chao Ngoah-Pa (the dress as a fake skin) and she threw a garland of flowers to Sang Thong Chao Ngoah Pa (Phra Sang Thong) for to be her husband. The King very angry, a daughter choose idiot, dumb, black man look like a wild man. The King has evicted both to stay at end of rice field. Until the Indra must impersonate came down to make the problems for this city. By believed to Phra Sang thong will a reveal his a real identity came out
ข้อมูลจากเวบคุ้มครอง บางคล้า๑๐๐ปี
อ่านเพิ่มเติม : พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จาก วิกิพีเดีย
Read More : Phra Phutthayotfa Chulalok The Great King Rama I From Wikipedia.
Statue of Rama I at the Phra Phutthayotfa Memorial Bridge, Bangkok (1932)
อ่านเพิ่มเติม : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จาก วิกิพีเดีย
Read More : Phra Phutthaloetla Naphalai Rama II of Siam From Wikipedia.
อ่านเพิ่มเติม : พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร จากวิกิพีเดีย
Read More : King Rama 8 Ananda Mahidol From Wikipedia.
โดยความคิดเห็นส่วนตัว : 3 เหตุผล คือ
1. ที่วัดแจ้ง บางคล้า นี้มีรูปปั้น "ยักษ์" เพราะมีชื่อ "วัดแจ้ง" ที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์ที่รัชกาลที่ 1 เมื่อครั้งยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี คือ "วัดแจ้ง" หรือ วัดอรุณราชวราราม ที่ กรุงเทพฯ มีรูปปั้น "ยักษ์ 2 ตน"
2. ชื่อของทั้ง 2 วัด คือ "วัดแจ้ง" ที่องค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ พระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงเสด็จมาถึงในเวลา "รุ่งอรุณ" เหมือนกัน
3. ส่วนหุ่น "กินนรี" และ "เจ้าเงาะป่า นางรจนา" เพราะองค์รัชกาลที่ 2 ทรงเป็นผู้บูรณะวัดอรุณ และ ยังทรงมีพระราชอัฉริยะภาพทางด้านศิลปกรรมด้านต่างๆ หลายสาขา เช่น ด้านกวีนิพนธ์ ประติมากรรม ด้านดนตรี ฯลฯ
My personal opinions : The 3 reasons for
1. Wat Chaeng Bangkla have a "Giant statue" because name of the temple is "Wat Chaeng" Which is relevant to the King Rama 1 in that time he is a commander in chief of King Taksin. Which is "Wat Chaeng" or Wat Arun in Bangkok, with 2 "Giant statues".
2. The name of the both temple is "Wat Chaeng" which same about the time of the King Taksin has came to the temple area in the "Morning".
3. "Kinnaree statue" is an animal in The Himavanta forest creatures and The statues of "Sang Thong and Rot-Chana Princess". Because King Rama 2 has the restoration of Wat Arun and also had a royal genius of the various branches of art, such as the anthology, the sculpture, the music etc...
ยักษ์วัดแจ้ง หรือ วัดอรุณราชวราราม กทม มีรูปลักษณะตามแบบวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ มีอยู๋ 2 ตน สูงประมาณ 3 วา ยักษ์กายสีขาว ชื่อ สหัสเดชะ แปลว่า มีกำลังนับพัน ยักษ์กายสีเขียว ชื่อ ทศกัณฑ์ มี 10 หน้า
The Giants in Wat Arun in Bangkok Thailand, are from The Ramayana Literature, with 2 guys. High about 3 meters. White body, name is Sahas-Decha mean enormous strength guy and Green body, name is Tosakan with 10 faces. (Tos ทศ in Thai = 10 ten or sib สิบ in Thai, Kan กัณฑ์ in Thai = face)
คำขวัญประจำจังหวัด คือ "บางปะกงคู่ชีวี พระสถูปเจดีย์คู่ถิ่น ศาลพระเจ้าตากสินคู่บ้าน อาหารคาวหวานคู่เมือง ลือเลื่องค้างคาววัดโพธิ์"
อำเภอบางคล้า ตั้งขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2444 มีความเป็นมากว่า100 ปี มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เมื่อครั้งที่พระเจ้าตากสินมหาราช ในสมัยธนบุรี หรือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สมัยรัชกาลที่ 1 ในสมัยรัตนโกสินทร์ ทรงสร้างพระวีรกรรมต่อต้านศัตรูที่มาตั้งค่ายยึดเป็นที่มั่นอยู่บริเวณปากน้ำโจ้โล้ / ข้อมูลจาก ประวัติเทศบาลตำบลบางคล้า
Slogan of the province is "Bang Pakong River is pair the life, the pagoda is pair the local, the shrine of King Taksin is pair the houses, all of savory dishes are pair the city and bats are a famous in Wat Pho".
Bangkla district was established on the year 1901 with over 100 years of historical importance. Since when King Taksin of Thonburi, or King Rama 1 of Rattanakosin. He was the bravery by fight, resist to the enemy is camping as stronghold in Pak-Nam Jolo area.
บางคล้า เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาจากพรรณไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า"ต้นคล้า" (Calathea) ชื่อวิทยาศาสตร์ Calathea picturata.,Calathea roseo-picta. ซึ่งเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีเหง้าใต้ดิน และ หน่อออกเป็นกอใหญ่ ลำต้นสูงถึง 2 เมตร ใบคล้ายใบกล้วย แต่มีขนาดเล็กกว่า ดอกสีขาวออกเป็นช่อห้อยลงมาเป็นสาย ผลกลม พบขึ้นมากตามป่าดิบเขาริมธาร และที่ชุ่มชื้น / รูปจาก คล้า ยาสมุนไพร, สมุนไพรไทย
Bang Kla is named after the one of poplar called Ton Kla (Calathea picturata.,Calathea roseo-picta.) Which, it is a small shrub. an underground rhizomes and the sprout out a big clump, height to two meters. Its leaves similar with banana leaves but smaller than. A bouquet of white flowers hanging down is the line. Found more at the side streams, moisture of forest.
ตลาดน้ำบางคล้า ฉะเชิงเทรา เปิดทุก วันเสาร์ – อาทิตย์ 08.00 – 18.00 น. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นโป๊ะยื่นลงในแม่น้ำบางปะกง มีร้านค้ามากมายประมาณ 200 ร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร ผลไม้พื้นบ้าน และของที่ระลึก วันนี้พาเพื่อนชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ แล้วพาล่องเรือชมทิวทัศน์ และ วิถีชีวิตท้องถิ่นของแม่น้ำบางปะกง
Bang Kla Floating Market in Chachoengsao Thailand. Open Saturday - Sunday 08:00 to 18:00 hrs. and holidays. It is a pontoon filed down the Bang Pakong River. There are many shops than 200 shops, Most of the food, local fruits and souvenirs. Today I take my foreign friend come here then take him to a cruise to see view and a local life style of Bang Pakong River.
หลังจากอิ่มจากอาหารเรียบร้อยแล้ว ก็พาเพื่อนนั่งเรือ ล่องแม่น้ำบางปะกง ดูวิถีความเป็นอยู่ ธรรมชาติ และ วัฒนธรรมไทย เพื่อนประทับใจมาก เรือพาไปแวะที่ วัดโจ้โล้ โบสถ์สีทอง และ วัดโพธิ์ บ้างคล้า ที่มีค้างคาวแม่ไก่ จำนวนมากมาอาศัยที่ต้นไม้ในวัด
After our lunch, I take my friend to a boat trip in the Bang Pakong River, See the natural, live style and the culture of Thai people, my friend have a feeling very impressive. The boat will stopped to visit at Wat Pak-Nam Jo-Lo or The Gold Temple and Wat Pho Bang Kla with the a lot bat are hang and living on the trees in the temple is a highlight.
"พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" พระเจดีย์เดิมถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงไปหมดแล้ว กรมศิลปากรจึงได้สร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม และ "วัดปากน้ำโจ้โล้" ตัวโบสถ์เป็นสีทองทั้งหลังทั้งภายใน และ ภายนอก
"King Taksin the Great Stupa" old stupa has erosion by the water. The Fine Arts Department has created a new stupa in the same area. and "Wat Pak-Nam Jo-Lo in Chachoengsao Thailand." The chapel is all gold color, inside and out side.
ดู อ่าน เพิ่มเติม สถานที่อื่นๆ ในฉะเชิงเทรา :
See, Read more about other places in Chachoengsao province :
ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชม และ ติดตามได้ที่
Thanks for visit my Blog and followed me on :
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น