วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วัดร่องขุ่น เชียงราย White Temple or Wat Rong Khun in Chiang Rai Thailand.

วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ใน ตำบลป่าอ้อดอนชัย  อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ออกแบบและสร้างโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ "ห้ามถ่ายรูปข้างในพระอุโบสถ"
Wat Rong Khun or White Temple is located in Pa-Or-Don Chai in Muang district, Chiang Rai province Thailand. Designed and built by Chalermchai Kositpipat.  "DO NOT Photography inside the chapel".


เวลาทำการ : ทุกวัน 6.30 - 18.00 น. ห้องแสดงภาพ : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 17.30 น. ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 8.00 – 18.00 น.
Open daily : 6.30-18.00 hrs. The gallery building  : open Monday - Friday 8:00 to 17:30 hrs. Saturday - Sunday and public holidays from 8.00 - 18.00. hrs.

** หมายเหตุ : รูปภาพเมื่อปี พ.ศ.2552
Notes : The photos nice year 2009 **






วัดร่องขุ่น ถอดแบบมาจากวัดมิ่งเมือง จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 เวลา 18.05 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 มีศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย และ แผ่นดินไหวตามมาหลายครั้ง สร้างความเสียหายให้กับวัดร่องขุ่นเป็นอย่างมาก เช่น ผนังโบสถ์ปูนกระเทาะออก กระเบื้องหลุด ยอดพระธาตุหัก ภาพเขียนเสียหายหมด ทำให้ต้องปิดวัดเพื่อซ่อมแซมตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 / วัดร่องขุ่น วิกิพีเดีย  Wat Rong Khun From Wikipedia
Wat Rong Khun has reproductions of Wat Ming Muang in Nan Province. On May 5, 2014 at 18:05 am. had 6.3 magnitude earthquake, centered on the Mae Lao district in Chiang Rai province Thailand. And many aftershock earthquakes was to damaged too much to Wat Rong Khun or White Temple. Such as the chapel walls cement cracked out, loose tiles, Top relics was deduction,  damage to the paintings. The need was closed the temple for repairs since May 6, 2014.



แรงบันดาลใจของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะ "พระมหากษัตริย์" เมื่อครั้งที่อาจารยังเรียนอยู่ที่คณะจิตกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร เคยได้ยินครูบาอาจารย์พูดถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า พระองค์เคยรับสั่ง "งานศิลปะประจำรัชกาลของเรา ไม่เห็นมี ทุกรัชกาลเขามีงานศิลปะที่แสดงเอกลักษณ์กันทุกรัชกาล วัดวาอารามที่สร้างกันใหม่ๆ ก็ยังยึดอิทธิพลศิลปะเก่าๆ อยู่" และ จากการเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชหลายครั้ง ทำให้เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก จากการพบเห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะ และ พระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงปรารถนาที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ถวายเป็นงานศิลปะประจำรัชกาลพระองค์ท่าน
The Inspiration of Chalermchai Kositpipat are The Nation, The Religion and The King. Especially "The King" when he was still a student at the faculty of painting of Silpakorn University. He has hear the teachers say about The King, He had said "Art in my reign have no yet. Every Kings has the art that is unique in every reign of Kings. The newly-built temples still secures the influences an old art style." And from did the Jobs for offer to His Majesty King Bhumibol Adulyadej King Rama 9,  several times. That makes to he (Chalermchai) Love King more. From the seen the artistic genius and the kindness of King. He have feel the warmest and sense of divine grace. He get an idea the desired to create a work Buddhist Art for to be "The Art Of The Reign Of King Rama 9".




อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เกิด 15 กุมภาพันธ์ 2498 ที่หมู่บ้านร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย เป็นลูกคนที่ 3 ชอบวาดรูปมาก สมุดเรียนมีแต่รูปวาดทั้งเล่ม อายุ 8 ขวบ ย้ายตามพ่อแม่ไปอยู่ในตัวเมือง เข้าเรียนโรงเรียนดรุณศึกษา และ ทุกวัน หลังเลิกเรียนได้ไปดูเขาเขียนรูปที่โรงหนัง ช่วยล้างพู่กัน ซื้อโอเลี้ยง จนได้วาดรูปตัวประกอบ เลยตั้งเป้าที่จะเรียนเพาะช่าง และ มหาวิทยาลัยศิลปากรให้ได้ หลังจากสำเร็จการศึกษาภาคศิลปไทยเป็นรุ่นแรก ในช่วงปี 2524 – 2526 ได้รับทุนของสถาบัน และ องค์กรต่างๆ ได้ไปดูงานในต่างประเทศหลายครั้ง จนมาเห็นโบสถ์ "วัดพุทธปทีป" ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จึงเสนอตัวเพื่อขอเขียนรูปถวายเป็นพุทธบูชา โดยไม่คิดค่าจ้างร่วมกับเพื่อนรุ่นน้องชื่อ "ปัญญา วิจินธนสาร" เริ่มปี 2527 ถึงปี 2531 กว่า 4 ปี 
Chalermchai Kositpipat was born February 15, 1955 at Rong Khun village in Chiang Rai province, is 3nd son.  He like drawing too much, the book for learning full with only drawing in all book. At age 8 years old, his parents moved to the city, attends Darun-Siksa School and everyday after school must go to see the staff is painting at the theater, help to wash brush, bought iced black coffee, until can to drawing some of the Actors. He aim to be a study in School of Arts and Crafts or Poh Chang (in Thai) College and Silpakorn University. After graduation in Arts of Thailand were the first generation. During the years 1981 - 1983 has been the capital of institutions and organizations have gone to visit to see about work in abroad several times. Until see the chapel in "Wat Buddhapadipa" in London, England. He has offer to drawing on the wall for an offering to a Buddha. Without the charge, with a younger friend named "Panya Wichin-Thanasan" From 1984 to 1988, more than 4 years. 


ภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์ "วัดพุทธปทีป" ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ "สวรรค์ชั้นฉกามาพจรภูมิทั้ง 6 เหนือ สีธันดรมหาสมุทร"  เรื่อง "ไตรภูมิพระร่วง" ในวรรณคดีไทย โดยอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ 
 The mural in the chapel of "Wat Buddhapadipa" in London, England. "Sawan Chan Cha-Kama-Pachorn-Phum Thang Hok Nhear Si-Than-Dorn Maha-Samuth" Story "Traiphum Phra Ruang" in the Thai literature. By Chalermchai Kositpipat.

** NOTES : Sawan (Heaven), Chan (storey), Cha-Kama-Pachorn (the name of the heaven) -Phum (landscape), Thang (both), Hok (6), Nhear (above), Si-Than-Dorn (the name of the ocean) Maha-Samuth (ocean)". **



กลับมาเริ่มต้นชีวิตที่เมืองไทย ด้วยเงินติดกระเป๋าเพียง 4000 บาท แต่ด้วยฝีมือการวาดภาพที่เข้าขั้นอัจฉริยะ สามารถทำเงินได้มหาศาลภายในเวลาอันสั้น จนกระทั่งอายุ 42 ปี เมื่อครั้งกลับวัดร่องขุ่น ที่ตอนนั้นวัดมีสภาพทรุดโทรมเป็นที่สุด ก็เลยมีแรงดลใจว่าอยากสร้างวัดร่องขุ่น ด้วยศิลปะสมัยใหม่ เหมาะกับประเทศไทยภายใต้ร่มโพธิสมภารของในหลวง รัชกาลที่ 9  ใช้เวลา 3 ปี ด้วยเงินที่เก็บสะสมไว้กว่า 20 ปี จากการจำหน่ายผลงานศิลปะ หลังปี 2540 ผลงานของอาจารย์มีราคาสูงมาก จนไม่มีในตลาดศิลปะ และ หาซื้อไม่ได้ในขณะนี้
Return back start living in Thailand. With pocket money only 4000 baht, but because a genius in the skilled of painting, he can make the moneys an enormous in a short time. Until the age of 42 years when he returned to Wat Rong Khun. In that time the temple has the most disrepair. An inspiration that would create Wat Rong khun (White Temple now) with a modern art for Thailand, which is under the kindness of King Rama 9. Spend time 3 years by his money accumulated over 20 years, from selling art pieces. After year 1997, his artworks were very high prices, have no in the art market and can't bought it now.



 เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เริ่มสร้างอุโบสถก่อน บนพื้นที่เดิมของวัด 3 ไร่ โดยปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ พื้นที่เดิมของวัด 3 ไร่ และอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวซื้อที่ดินเพิ่ม และ คุณวันชัย วิชญชาคร เป็นผู้บริจาคที่ดินประมาณ 7 ไร่เศษ รวมเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาอื่นๆ จนถึงปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 12 ไร่  ตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2540 จนถึงขณะนี้ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ใช้เงินไปกว่า 40 ล้านบาท และ ยังจำกัดจำนวนเงินของผู้บริจาคให้ไม่เกิน 10,000 บาท 
Began construction since in 1997 by build the chapel is the first step, on the original area of the temple of 3 Rai. With the desire to build the temple like to a heaven, which the human can touch. He bought more land by his money and Khun Wanchai Wichaya-Chakorn, who donated the land about over 7 Rai, including donations of other donors. To date, a total area of the temple is about 12 Rai. Since construction in year 1997 until now, Chalermchai Kositpipat is spending more than 40 million baht and also the limited the amount of donations money for the people who donate to not exceeding 10,000 baht. 


อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ กล่าวว่า : โดยอุทิศทั้งชีวิตให้กับการสร้างงานชิ้นสุดท้ายของชีวิตชิ้นนี้ ผมคิดเพียงอย่างเดียว ต้องดีที่สุด สวยที่สุด สร้างจนหมดภูมิปัญญาทางโลกและทางธรรมของผม "ความตายเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะหยุดเสรีภาพแห่งจินตนาการของผมได้" / ข้อมูล และ รูป อ. วัดร่องขุ่น.com  /รูปเหล่าจิตรกร DOOASIA
Chalermchai Kositpipat say : By dedicates an entire life for the creating the final art piece of this piece life. I only think must the best and most beautiful, create with my all wisdom both of the secular and religious. "Death is the only thing that will stop freedom of my imagination". 




สีขาวของโบสถ์แทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า กระจกขาว หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์ และ จักรวาล เขี้ยวเป็นปากของพญามาร หรือ พระราหู หมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรก คือ ทุกข์  สะพาน หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ  หลังคาเหนืออุโบสถที่ประดับด้วยสัตว์ในเทพนิยาย
White of the chapel is represents the purity of Lord Buddha. White glass is represents the wisdom of the Lord Buddha to shining to around the world and the universe. The canine teeth as the mouth of the devil or Phra Rahu represents the passion, sensuality in the heart, instead the hell is meaning to suffering. The bridge is meaning walk across from the round of existences to geared towards Buddhist landscape. The roof above the chapel decorated with the fairy tale creatures.







 "ห้ามถ่ายรูปข้างในพระอุโบสถ" มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ฉากหลังเป็นภาพเขียน "พระพุทธองค์" ที่มีขนาดใหญ่ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ เป็นฝีมือของ อาจารย์ เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์ เอง / รูปในโบสถ์จาก  FB : กลุ่มคนรักอาจารย์เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์
"DO NOT Photography inside the chapel" A Buddha statue is enshrined. The background is the paintings of "Lord Buddha" is large. Also the murals inside the chapel is the handiwork of Chalermchai  Kositpipat.







ห้องน้ำของที่วัดเป็นสีทอง ซึ่งอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เปรียบสีทองเป็นสีแห่ง กิเลส ตัณหา
The bathroom of the temple is golden, which Chalermchai Kositpipat have a comparison to golden is the color of passion.




** รูปภาพปัจจุบันของวัดร่องขุ่น เชียงราย ขอบขอบคุณ เฟสบุ๊คเพจ : กลุ่มคนรักอาจารย์เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์  ที่อนุญาติให้เราได้ใช้รูปภาพของอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ วัดร่องขุ่น
Current pictures of Wat Rong Khun or White Temple in Chiang Rai, Thanks to the Facebook page : กลุ่มคนรักอาจารย์เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์  for allowed me to add the pictures of Chalermchai Kositpipat and Wat Rong Khun or White Temple. **

ภาพมุมสูง "งานพิธียกพระธาตุ ๑๓ ธันวาคม ๕๘" ภาพจาก บอย @Boy K'Design 
Bird's-eye view "ceremony lift the Relics on December 13, 2015" photo by @Boy K'Design.


พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี พาคณะสามเณรภาคฤดูร้อน มาเยี่ยมชมวัดร่องขุ่น และฟังบรรยายจาก อาจารย์เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์
Phra Maha Wutthichai Wachiramethee has took the novices Summer School, visited in Wat Rong Khun and listen to a lectures from Chalermchai Kositpipat.





"ใจมึงสูง มึงก็รอด ใจมึงกระจอก มันก็จน" คำกล่าวของอาจารย์ เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์
"Your mind high so be survival, Your mind shoddy so it's be poor." the words from  Chalermchai Kositpipat.




รูปจากคุณหมอกิ๊ก เมื่อวันที่ 9 ม.ค 2559
The photos by Khun Moh Kik  or Doctor Kik, on January 9, 2016.



นอกจากที่วัดร่องขุ่นแล้ว ยังมีผลงานของอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์  เป็นตุงเฉลิมพระเกียรติที่ อนุสาวรีย์พญามังราย  ตั้งอยู่ 5 แยกพ่อขุน เส้นทางที่จะไปอำเภอแม่จัน หรือ อำเภอแม่สาย และ หอนาฬิกา  ตั้งอยู่ที่เทศบาลนครเชียงราย ถนนบรรพปราการ ในตัวเมืองเชียงราย ซึ่งจะเปลี่ยนสีในเวลา 20.00 น. เป็นต้นไป
In addition, Wat Rong Khun or White Temple also have the portfolio of Chalermchai Kositpipat are The Toong (Flags of King) at King Mengrai or Phraya Mengrai Monument is located at Har Yeak (5 road junction) Por-Khun, the route go ahead to Mae-Chan district or Mae-Sai district. And Clock Tower of Chiang Rai City is located in the municipality Chiang Rai, at Banpa-Prakan Road in Muang District, Chiang Rai province Thailand. Which changes color at 20.00 hrs.





ดู อ่าน เพิ่มเติม สถานที่อื่นๆ ในเชียงราย :
See, Read more about other places in Chaing Rai Thailand :



รำวงย้อนยุค ที่ ถนนคนเดิน เชียงราย ทุกวันเสาร์
Retro Dance at Night Street Market in Chiang Rai Thailand. Every Saturday.


การแสดงท้องถิ่น โดยนักเรียน 
The local tradition show by the students.



ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชม และ ติดตามได้ที่
Thanks for visit my Blog and followed me on : 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น