The Palace is located on an island called Bang Pa-In in the south of Phranakhon Si Ayutthaya, about 30 Kilometers along the Chao Phraya River, and it is 80 kilometers from Bangkok.
พระราชวังบางปะอิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงยุคสมัยการปรับตัวของไทยเข้าสู่ความเป็นสากลแบบตะวันตก ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หรือราวกว่า 130 ปีที่ผ่านมา เปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลาระหว่าง 08.00 - 15.30 น.
Bang Pa-In Palace is a tourist site that shows the adaptation of Thailand from the old era into western civilization which firstly started in the reign of King Chulalongkorn about 130 years ago. The Palace opens daily from 8.30-15.30
หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ "ศาลพระเจ้าปราสาททอง" เป็นปรางค์ศิลา จำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปสมมุติแทนพระองค์พระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ริมสระใต้ต้นโพธิ์ ภายในพระราชวังบางปะอิน รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2423 / ข้อมูลจากวิกิพีเดีย
Ho (shrine) Hem Monthian Thewarat (Golden Palace,king of god) "The King Prasat Thong" is a small stone pagoda. Replication of Khmer-style prasat, Inside is enshrined the god statue fictional King Prasat Thong. Located in the outer court, near the pool under the Bodhi tree, in the Palace. Built by King RAMA 5 in year 1880.
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นมหาปราสาทโถงกลางน้ำ ถือเป็นสัญลักษณ์ของพระราชวังบางปะอิน รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเล้าให้จำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2419
Aisawan Thiphya-Aas is Maha Prasat Hall is in the middle of the pool, The symbol of Bang Pa-In Palace. Built by King RAMA 5 in year 1876. It is a copy of the Phra Thinang Aphonphimok Prasat In the Grand Palace, Bangkok.
สะพานเชื่อมเขตพระราชฐานชั้นนอกกับชั้นกลาง ที่มีตุ๊กตาหินอ่อนตั้งอยู่เรียงราย และอีกสะพานสำหรับเชื่อมเขตพระราชฐานชั้นกลางกับเขตพระราชฐานชั้นใน มีแนวฉากคล้ายบานเกล็ดไม้กั้นกลางตลอด เพื่อแบ่งเป็นทางเดินของฝ่ายหน้าและฝ่ายใน (ผู้หญิงล้วน)
Bridge for separate between the outside palace and the middle palace part, it is the marble doll line and this one bridge for separate between the middle palace and inner part is the screens wood for divide a tract of women.
พระที่นั่งวโรภาษพิมาน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2419 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการ แต่ปัจจุบันใช้เป็นที่ประทับเมื่อมีการเสด็จแปรพระราชฐาน (ด้านในห้ามถ่ายรูป)
Phra Thinang (Royal Residence) Warophat Phiman built since 1876 by King Rama V. as his residence and throne hall. (No photography allowed inside.)
บางปะอินได้เป็นที่ประทับของพระเจ้าปราสาททองในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยให้สร้างพระตำหนักกลางน้ำหลังหนึ่งไว้ ชื่อพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และสร้างวัดในบริเวณใกล้เคียงกันให้ชื่อว่า วัดชุมพลนิกายาราม แม้เชื่อกันว่าบางปะอินจะเป็นที่เสด็จประพาสของกษัตริย์อยุธยาตั้งแต่นี้มา แต่หลังการเสียกรุงเมื่อปี พ.ศ. 2310 ก็ทำให้บางปะอินและบริเวณแถบนี้กลายเป็นที่รกร้าง บางปะอินได้รับการรื้อฟื้นให้เป็นที่ประทับขององค์กษัตริย์และเจ้านายอีกครั้ง โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โดยให้สร้างพระตำหนักกลางน้ำ และให้นามตามพระที่นั่งองค์เดิม คือ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์แต่ถูกรื้อเพื่อสร้างใหม่ในสมัยต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงให้ปรับปรุงพื้นที่และก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพื่อเป็นสถานที่เสด็จประพาส แต่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระองค์ประพาสที่นี่เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้น พระราชวังบางปะอินก็ร่วงโรย เพิ่งจะได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในรัชกาลปัจจุบัน (ที่มา : สถาบันอยุธยาศึกษา)
King Prasat Thong built the palace as his royal residence in mid Ayutthaya period. The king commissioned building a pavilion in middle of a pond and named it “Phra Thinang Ai Sawan Thippaya-at” or “Ai Sawan Thippaya-at Pavilion”. He also built a temple called “Wat Chumphol Nikayaram”. It is believed that Ayutthaya kings always went for pleasures at Bang Pa-In Palace, but after Ayutthaya was destroyed in 1767, the palace was left and deserted. King Mongkut, the fourth king of Rattanakosin, commissioned renovating the royal residences inside the palace, and used the residences again in his reign. He also built a pavilion in the middle of a pond and named it “Phra Thinang Ai Sawan Thippaya-at” like the iriginal pavilion built by King Prasat Thong.
In the reign of King Chulalongkorn, he commissioned improving the palace area, constructing many buildings, and went for pleasures there. But in the reign of King Prajadhipok, the 7th king of Rattanakosin, he went there only once, and after that, the palace had been deserted. It was renovated again in the reign of King Bhumibol, the present king of Thailand.
พิพธภัณฑ์รถม้าพระที่นั่ง
Royal Carriage Museum Dusit Palace.
**เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2558 เจ้าหน้าที่กำลังขนย้ายส่วนรถม้าพระที่นั่ง พระราชพหนะส่วนพระองค์ ไปเก็บไว้ที่ในกรุงเทพฯ**
**On October 30, 2015 Authorities are moving the Royal carriage, the Royal Automobile of the King RAMA 5. to keep its in Bangkok.**
หอวิฑูรทัศนา สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง เป็นหอสูง 3 ชั้น บันไดวนและแคบ ทาสีเหลืองสลับแดง สามารถมองเห็นพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญที่อยู่ใกล้ๆกัน
Hor Vitoon Thasana Tower was Built during the reign of King RAMA 5 for used saw a herd of wild elephants and the surrounding terrain The palace. The tower 3 floors, narrow spiral staircase, painted yellow and red. On top can see the Vahas Chamroon Hall is near the tower.
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยชาวสยามเชื้อสายจีนเพื่อถวายแด่รัชกาลที่ 5 ด้านในห้ามถ่ายรูป ให้ถ่ายรูปได้เฉพาะด้านหน้าโถงพระโรงเท่านั้น
Vahas Chamroon Hall was Built during the reign of King RAMA 5 with The Chinese Architectural Styles, Built by the Thai-Chinese to honor the King RAMA 5. No photography allowed inside, can take the photo only the front hall.
ดูเพิ่มเติม See more :
วัดนิเวศธรรมประวัติ อยู่ตรงข้ามพระราชวังบางปะอิน นอกเกาะด้านใต้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพระราชประสงค์ให้ถ่ายแบบวัดในคริสต์ศาสนาแบบโกธิคมาสร้างเป็นพระอุโบสถ หน้าต่างและประตูประดับด้วยบานกระจกสีเหมือนอย่างวัดคริสต์ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2421
Wat Niwet Thammaprawat is opposite the palace, outside the southern island. King RAMA 5 want to build the Thai temple but by the Christianity Gothic Style. Windows and doors decorated with stained glass as Christ church, Completed year 1878.
ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชม และติดตามเราได้ที่
Thank You and Followed me on :